วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การเลือกซื้อน้ำหอม ในแหล่งต่างๆ

ในปัจจุบันนี้เราสามารถหาซื้อน้ำหอมได้หลากหลายที่แตกต่างกันไป เช่น วานิลา ผมไม้ สตอรเบอรี่ กุหลาบ มะลิ และอื่นๆ อีกเพียบ หรือเราจะจะสามารถวางแผนที่จะซื้อน้ำหอมออนไลน์ แต่เราจะต้องพิจารณาให้ดีรวมถึงเคล็ดลับที่จะกล่าวต่อไปนี้ เพื่อให้คุณสามารถซื้อน้ำหอมได้เหมาะสมกับตัวเราโดยไม่ต้องไปหลงผิดหลงถูกกับการเสียเงินไปเล่นๆ 



1. หาร้านที่ดูน่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักกัน
ไม่ว่าจะ shop ตามห้างหรือเปิดร้านตามตลาดนัด ไม่เว้นแม้แต่เวปขายน้ำหอม ออนไลน์ พิมพ์ที่ google เลยครับ ว่าเวปหรือร้านที่เราจะทำการเลือกซื้อนั้น มีผลตอบรับอย่างไรบ้าง มีน้ำหอมเยอะขนาดไหน และข้อมูลของน้ำหอมที่ได้มาเนี้ยจากที่ใดต้องชัดเจน ทั้งราคาและที่มา จากฮ่องกง สิงขโปร หรือ ยุโรป อเมริกา ก็ว่ากันไป ราคาแตกต่างกัน



2. กำหนดกลิ่นหรือแนวของน้ำหอมของเรา
ต้องกำหนดว่าตัวเราชอบกลิ่นหอมของอะไรเป็นขั้นต้น ดอกไม้ ผลไม้ วานิลา หรือ โคโรญ ไม่ก็ตามแฟชั่นที่เป็นแนวทาง ตามแบรนด์ที่เราเคยใช้ จะได้เลือกได้ง่าย 3. ค้นหาส่วนลดของแถม มันเป็นสิ่งที่มุ่งประเด็นตรงๆ คือ จะซื้อแล้ว แต่ละร้านให้ราคาเท่าไร่ ส่งฟรีหรือไม่ คุณภาพดีหรือเปล่า

และนิดนึงอย่าลืมทำความคุ้นเคยกับพ่อค้าแม่ค้าน้ำหอมด้วยเผื่อจะได้คำแนะนำบางทีที่เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจ

วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2557

น้ำหอม | ประวิติที่มาของน้ำหอม


น้ำหอม (Perfume) เป็นคำที่มาจากภาษาละติน คือ per fumum มีความหมายว่า "through smoke" การผ่านควัน ด้วยศาสตร์หรือศิลปะ "การดมกลิ่นและผลิตน้ำหอม" เริ่มตั้งแต่ในยุคสมัย โสโปเตเมียและอียิปต์โบราณ (Mesopotamia, Egypt) ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อในยุคของโรมันและเปอร์เซีย (Romans, Persians)


นักเคมีคนแรกของโลกซึ่งเป็นหญิงชื่อ Tapputi ได้ผลิตน้ำหอม และถูกกล่าวถึงในยุคเมโสโปเต 2,000 BC เธอได้ทำการสกัดและกลั่นน้ำมันออกจากดอกไม้ ด้วยระบบการบีบกดทับ ซึ่งเมื่อผ่านการกรองแล้วจะนำกลับไปให้เหล่าผู้คนระดับสูงได้ใช้หลายครั้งด้วยกัน


ในปี ค.ศ. 2005 นักโบราณคดีได้ค้นพบและคาดว่า นี่เป็นน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุดของโลกใน Pyrgos, Cyprus ที่มีอายุราวๆถึง 4,000 ปีก่อน ในสถานที่กว่า 43,000 ตารางฟุต ที่ดูเหมือนจะเป็นสถานที่ทำซะด้วย ซึ่งมีชามที่ผสมน้ำหอมรวมถึงขวดน้ำหอมจำนวนมาก ซึ่งจะพบว่ามีส่วนของสมุนไพรโบราณของคนยุคนั้น เช่น อัลมอนด์ ผักชีเมอร์เทเรซิน ต้นสน และใบมะกรูด รวมถึงดอกไม้บางชนิด

นักเคมีจากเปอร์เซียอิบันไน ได้แนะนำกระบวกการแบบโบราณของการแยกน้ำมันจากดอกไม้โดยการกลั่น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้กันมากที่สุดจนถึงทุกวันนี้ เวลาที่ทำการกลั่นจะได้น้ำหอมที่มีส่วนของน้ำมันหอมละเหยที่รุนแรงเข้มข้น ซึ่งส่วนมากจะเริ่มจากดอกกุหลาบกัน การกลั่นจะแตกต่างกันตามเทคโนโลยีกันไปด้วย

ศาสตร์แห่งน้ำหอมนี้เป็นที่รู้จักในยุโรปตะวันตก ราวๆปี ค.ศ.1094 จากคณะสงฆ์ท่านนึงชื่อ Santa Maria delle Vigne หรือ Santa Maria Novella of Florence, Italy โดยทีแรกทำออกมาผสมในเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อดับปัญหาของกลิ่น ตามคำสั่งของ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบฮังการี Queen Elizabeth of Hungary, ทำให้ศิลปะนี้เข้าสู่ยุคเฟื่อฟูสุดของน้ำหอมในอิตาลี่ ช่วงศตวรรษที่ 16 โดยได้เกณฑ์นักเคมีไปยังฝรั่งเศสโดย Catherine de' Medici และ Rene the Florentine (Renato il fiorentino) โดยทำการสร้างห้องผลิตในอาพาร์ตเมนท์หลายๆตึกเชื่อมต่อกันและปกปิดทุกอย่างเป็นความลับ

และในที่สุด Rene ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นหนึ่งของศูนย์กลางน้ำหอมที่ดีที่สุดในยุโรป และผลิตเครื่องสำอางมากมาย โดยการเพาะปลูกดอกไม้กลายเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำน้ำหอมซึ่งได้เริ่มในช่วง ศตวรรษที่ 14, ได้กลายเเป็นอุตสาหกรรมอันยิ่งใหญ่และสำคัญมากในตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส


ช่วงระหว่างศตวรรษที่ 16 - 17, น้ำหอมได้ถูกใช้เป็นค่านิยมในการแสดงออกของฐานะทางสังคม ส่วนมาจะใช้เพื่อปกปิดกลิ่นกายหลังจากอาบน้ำ ซึ่งประเทศต่างๆทางยุโรปเริ่มหันมาส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น และ ในช่วงนั้นในเยอรมันมีช่างตัดผมชาวอิตาลี่ ชื่อ Giovanni Paolo Feminis ได้สร้างน้ำหอมพิเศษคือ Aqua Admirabilis ซึ่งเป็นสุดยอดน้ำหอม eau de cologne หรือ โคโลญ ที่มีความนิยมจนถึงปัจจุบัน โดยที่หลายชายของเค้า Johann Maria Farina (Giovanni Maria Farina) เปิดทำการผลิตเป็นธุรกิจในปี ค.ศ. 1732

เมื่อมาถึง ศตวรรษที่ 18, พืชไม้ดอกที่มาทำเป็นวัตถุดิบน้ำหอมถูกปลูกมาในเมือง Grasse ของฝรั่งเศส และ Sicily, Calabria ในอิตาลี่

วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2557

วิธีการเลือกซื้อน้ำหอมให้เหมาะสมกับตัวเรา

การใช้น้ำหอมให้เหมาะกับตัวเรา เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามของตัวเราในระดับนึงเลยทีเดียว ซึ่งจะเกิดขึ้นบ่อยๆสำหรับผู้ที่ใช้น้ำหอมเป็นประจำแต่ยังไม่ทราบถึงกลิ่นที่เหมาะสมหรือองค์ประกอบของน้ำหอมนั้นๆและบุคคลิกที่เผยออกมา ให้เป็นอย่างดีเสียก่อน น้ำหอมที่คุณจะเลือกใช้นั้นต้องมีกลิ่นที่บ่งบอกถึงบุคคลิกของคุณเป็นอันดัยแรก ต่อมาเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของเรารวมถึงเฉดสีด้วยว่าไปแนวทางไหน ชอบไปสถานที่ใด มีกิจกรรมอะไร ไปไหนทำอะไร ตามชีวิตประจำวันของเรา
ซึ่งบางทีการชอบกลิ่นของน้ำหอมนั้น มันไม่ได้เป็นตัวตัดสินการเข้ากับน้ำหอมของเรา เช่น ชอบกลิ่นหอมหวานออกแนวผลไม้ แต่เราเข้าฟิตเนสออกกำลังการมีเหงื่อประจำ ซึ่งผิดอย่างมาก เราต้องใช้น้ำหอมปะรเภทโคโลน หรือ โปโล สป๊อด แล้วแต่จะไล่กลิ่นแบบไหน เป็นต้น
และที่สำคัญต้องคิดถึงความรู้สึกของผู้ที่จะต้องพบปะของเราด้วย เช่น ไปพบลูกค้าเพื่อคุยงาน ต้องใช้กลิ่นบางๆดูผ่อนคลายกลื่นไม่แรงและมีเสน่ห์น่าดึงดูด ดูสุขุม น่าเชื่อถือ



ข้อแนะนำที่ต้องจดจำในการเลือกซื้อน้ำหอม

จุดเริ่มต้นเลย คุณต้องรู้เกี่ยวกับประเภทต่างๆของน้ำหอมในท้องตลาดก่อน ว่าเป็นดอกไม้ขนิดใด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเราแหละว่าจะเลือกดอกไม้ประเภทไหน
และบางกลิ่นจะผสมกลิ่นหวาน อย่างวนิลาผสมลงไป บ้างก็ผสมกับกลิ่นที่สดชื่นอย่างมะนาวหรือเมลอน หรือกลิ่นโคโลนอ่อนดูผ่อนคลาย

มาดูองค์ประกอบภายในกลิ่นของน้ำหอมกัน

กลื่นของน้ำหอมที่มีจุดข้อดีและด้อยที่แตกต่างและการติดทนนานรวมถึงไม่แรงแสบจมูก ที่ดีที่สุดเรียกว่า eau de-Fraiche โดยทั่วๆไปแล้วหัวน้ำหอมจะมีอยู่ถึง 25-30% โดยส่วนที่เหลือนั้นจะมีแต่แอลกอฮอล์หรือน้ำกลั่นบางส่วนหรือมีทั้ง 2 อย่างผสม



ส่วนเกรดทั่วๆไปราคาไม่แพง จะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมเพียง 10-20% เท่านั้น ยิ่งแอลกอฮอล์มายิ่งกลิ่นจางกว่า และไม่ติดทนนานทั้งวัน

เพราะฉนั้น ถ้าพูดถึงเกรดน้ำหอมในไทยที่ขายกันอยู่ จะมีเกรดนำเข้าจาก ฮ่องกง,สิงขโปร ราคาถูกมาก ซึ่งเป็นเกรดทั่วไป ดีไม่ดีโดนของปลอมอีก
ส่วนเกรดระดับสูงจะนำเข้าจากทางยุโรปซึ่งจะหอมติดทนนานและไม่แสบจมูกเมื่อดมกลิ่นของมัน

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2557

6 วิธีใช้น้ำหอมทุกชนิด

1. หาน้ำหอมที่เหมาะสมกับคุณ มันไม่เพียงแค่เครื่องแต่งกายเพื่อสวมใส่บางสิ่งบางอย่าง เพราะมันเป็นน้ำหอมที่ออกแบบมาเฉพาะกลิ่นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้แน่ใจว่าคุณชื่นชอบกลิ่นของมันหรือไม่ โดยที่ใช้เพียงสเปรย์เล็กๆ ของน้ำหอมฉีดพ่นไปที่ด้านหลังของข้อมือของคุณและรอประมาณ 20 นาที และทำการดมกลิ่นน้ำหอมอีกครั้ง ว่าคุณชอบกลื่นของมันหรือไม่ นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มการตัดสินใจของคุณโดยไปที่ร้านขายน้ำหอมที่มีให้ทดลองของจริง (เช่น เคาน์เตอร์น้ำหอมแผนกแต่งกาย ที่ห้างสรรพสินค้า) และขอคำแนะนำจากพนักงาน

2. ทำการอาบน้ำก่อนที่จะใช้ เพื่อให้ผิวของคุณได้ดูดซับกลิ่นได้มากขึ้นหลังจากที่ผิวยังคงชุ่มชื่นจากน้ำ ไม่เว้นว่าจะเป็นการอาบน้ำในตอนเย็นหรือก่อนนอนตอนกลางคืน จะพบว่ายังคงให้กลิ่นหอมที่ดีอยู่มากกว่าตอนใช้น้ำหอมตอนที่ผิวแห้ง

3. เวลาฉีดน้ำหอมให้ฉีดลงบนจุดบริเวณตามซอกคอข้อมือหรือจุดที่เปิดเผยของกลิ่นเพื่อเย้ายวนให้น่าดึงดูดได้ดี และอย่าฉีดมากเกินไป มันจะฉุนจนไม่หอมกลายเป็นความรำคาญจากกลิ่นมากเกินไป



4. การใช้โลชั่นบริเวณจุดที่ฉีดน้ำหอม ตามข้อพับที่ต่างๆ ต้องให้แน่ใจว่าเป็นกลิ่นใกล้เคียงกับน้ำหอมของคุณที่จะฉีดลงไป และอย่าพึ่งฉีดน้ำหอมทันทีหลังฉีดโลชั่นให้รอประมาณ 2-3 นาทีก่อนให้โลชั่นแห้งก่อนจึงพ่นทับได้

5. คำนึกถึงบุคคลิกภาพของเรา รวมถึงสถานที่ที่จะไปด้วย ว่าเรามีลักษณะแบบใด และไปสถานที่ใด รวมถึงการเข้าพบผู้คนด้วยว่าเค้าจะชอบหรือไม่ และที่สำคัญคืออย่าใช้เยอะจนฉุนหรือกลิ่นแรงเกินไป

6. เลือกน้ำหอมของแท้ควรเลือกชนิดเกรดที่ดีเท่านั้น เพราะมันจะทำให้กลิ่นที่ได้ติดทนนานทั้งวันตั้งแต่เช้ายันดึก และไม่ฉุนหรือแสบจมูก ถ้าเป็นเกรดที่มาจากฮ่องกงหรือสิงขโปร จะไม่ค่อยติดทนอาจจะอยู่ได้เพียงครึ่งวัน ไม่ก็โดนหลอกว่าเป็นของแท้แต่เป็นของปลอมจะได้กลิ่นที่แรงจนแสบจมูกคนรอบข้างมาแทน

เพราะฉนั้นควรหาน้ำหอมที่นำเข้าจากทางยุโรปจะเป็นเกรดที่ดีกว่ามากเพราะจะมีสัดส่วนของแอลกอฮอล์น้อย ส่วนหัวน้ำหอมแท้จะเยอะกว่า ทำให้ติดทนนาน

วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ลักษณะการคัดน้ำหอม พร้อมกับการฉีดพ่นน้ำหอม ให้ติดทน

อิสตรีเปรียบเทียบดั่งมาลัยที่งามไม่รู้โรย น้ำหอมกับผู้หญิงซึ่งเป็นของคู่กันร่ำไป วันใดที่ผู้หญิงไม่ได้ฉีดพ่นน้ำหอมก็เทียบเคียงได้เปรียบเสมือนดังว่าวันนั้นหลงลืมใส่ชุดยกทรง

แนะแนวทางการเลือกน้ำหอมและการฉีดพ่นน้ำหอมจาก ผู้ชำนาญด้านน้ำหอมจากดินแดนประเทศฝรั่งเศส

สตรีกับน้ำหอมมีความข้องเกี่ยวกันอย่างใด
บุรุษหนุ่มและผู้หญิงเป็นสิ่งถูกกัน เหมือนกับผู้หญิงและความน่ารักก็เป็นของคู่กัน นารีเปรียบเทียบดั่งบุปผาที่สวยงามไม่รู้โรย

น้ำหอมทำให้เกิดการจำขึ้นใจ คนจะต้องใจและจำกลิ่นหอมของหญิงสาวได้ก็เพราะว่ากลิ่นหอมหวนจากตัวหล่อนที่แจ่มใสเป็นลักษณะเฉพาะนั่นเอง กลิ่นไอหอมหวนแจ่มใสของมวลดอกไม้ส่งมอบความรู้สึกแจ่มใส น่าถูกใจแก่ผู้คนที่พานพบน้ำหอมทำเอาหญิงสาวรู้ถึงความน่ารักน่าเอ็นดู น่าหลงใหล และเลิศ และน้ำหอมทำเอาชายหนุ่มรู้สึกถึงความเด่น สมบูรณ์ และมีชีวิตชีวา

เลือกน้ำหอมอย่างใดให้เหมาะสำหรับเวลาอันควร
ในแต่ละคราว แต่ละสถานที่เราควรให้ความสลักสำคัญในการเลือกสรรน้ำหอมที่เข้าท่าเข้าทางด้วย ผู้ชำนาญจะชี้แนะกับเราในเวลาสำคัญๆ เช่นนี้
วันเข้าทำงาน ชีวิตประจำวันของเราใครต่อใครต่างก็ต้องใช้ช่วงไปกับหน้าที่การงานและแทบทั้งชีวิตด้วย ดังนั้นเราสมควรสร้างความชื่นบานให้กับตัวเองและผู้ที่ต้องพบตลอดทั้งวัน พอให้รู้สึกบรรเทาและมีชีวิตชีวา เช่นนั้นกลิ่นหอมจากที่แนวสดชื่นและกลิ่นธรรมชาติ จึงเป็นหนทางที่ดีมาก โดยหลังจากอาบน้ำในยามเช้าให้ใช้โลชั่นทาผิว และควรจะเป็นโลชั่นที่อยู่ในชนิดเดียวกันกับน้ำหอมที่ใช้ เพราะจะเติมเต็มกลิ่นหอมของต่อกันให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ต่อจากนั้นให้ฉีดน้ำหอม 3-4 ครั้งเท่านั้นบนผิวพรรณ

วันออกเดท เป็นวันให้ความสำคัญยิ่งของสุภาพสตรีและชายหนุ่มในการสร้างความต้องใจเมื่อแรกพบ และทำให้ต่างคนได้ระลึกถึงสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อให้ตั้งใจที่จะพบกันอีกในครั้งต่อไปและสานมิตรสัมพันธ์ที่ยาวนาน ผู้ชายมักจะไม่ชอบน้ำหอมที่มีกลิ่นอายที่ฉุน รุนแรง ดังนั้นควรจะมีการค้นหาข่าวสารก่อนว่าคนที่จะเจอชื่นชอบดอกไม้ไหน ด้วยว่าเลือกกลิ่นน้ำหอมได้ชำนาญ และอย่าฉีดให้เยอะเกินพอดีเพียงใช้สเปรย์น้ำหอม 3-4 ครั้งก็เพียงพอ

เมื่อถึงวันสมรส นับเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของทั้งคู่ของหนุ่มสาว ซึ่งในการเลือกเฟ้นสิ่งที่ดีเต็มที่ เพื่อที่จะเก็บเป็นความจำของทั้งสอง และผู้ที่มาเป็นผู้รู้เห็นรักในวันนั้น การเลือกน้ำหอมให้ควรและบ่งบอกความเป็นตัวเอง หรือชุดที่ใส่ เพื่อจะให้เกิดการระลึกนั้นสำคัญ กลิ่นไอหอมจากมวลดอกไม้ที่ส่งมอบความเบิกบาน สบายใจ มีชีวิตชีวา เป็นทางเลือกเฟ้นที่ดีและฉลาด

สำหรับโอกาสอันควรที่ไม่เหมาะสมที่สุดในการใช้น้ำหอมคือ ไปเยี่ยมเยือนคนป่วยที่โรงพยาบาล, ทำพิธีทางศาสนา, งานไว้อาลัยหรืองานศพ และไม่ควรฉีดน้ำหอมเกินควรเพราะกลิ่นไอทำได้ไปรบกวนคนอื่นๆ ได้ ให้นึกถึงความรู้สึกเวลาที่เราต้องอยู่ในลิฟท์กับใครที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นไอฉุนๆ เข้า

ฉีดน้ำหอมบริเวณไหนบนผิวพรรณจึงจะติดคงทน
แนะแนวให้ฉีดพ่นน้ำหอมในแถบจุดชีพจรและจุดที่เน้นความน่าหลงใหล ดังต่อไปนี้ ซอกคอ, ทรวงอก, เอว, ต้นขาด้านใน, ข้อมือ, ข้อพับขาและแขน ส่วนเกี่ยวกับเส้นผมให้ใช้สเปรย์น้ำหอมฉีดพ่นลงบนแปรงหวีเส้นผมจึ่งนำมาแปรงที่ผม แค่นั้นก็จะถูกกับกลิ่นไอหอมกรุ่นที่เบิกบานใจได้ตลอดวันแล้ว เพราะว่าความร้อนจากตัวจะระเหยกลิ่นไอหอมผ่องใสให้ได้รู้สึกสดชื่นยาวนานทั้งวันจากด้านล่างขึ้นสู่ด้านบน นี่ยังเป็นกลยุทธ์ของการพ่นน้ำหอมให้ตรึงทนนานอีกเช่นกัน

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557

แนวทางของการใช้น้ำหอมให้ถูกกับโอกาสอันควรแบบหลากหลาย

การทบทวนตัดสินใจที่จะใช้น้ำหอมให้สมควรกับเวลาต่างๆสำหรับเติมให้เสน่ห์ในทุกแห่งทุกเมื่อ
น้ำหอมเป็นสิ่งหนึ่งที่อาจจะใช้ในการดึงดูดความสนใจการเหลียวแลของเพศตรงข้ามหรือการไปพบผู้อื่นได้อย่างราบรื่น มนุษย์เรานั้นมักจะพิจารณาสิ่งที่ ไม่เคยพบเจอหรือ

บุคคลที่แปลกหน้า ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 เสมอไป โดยเหตุนั้นกลิ่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญ เหตุหนึ่งที่คนอื่นๆใช้คำนึงเพื่อทำความรู้จักมักคุ้นต่อกัน

อธิบายเช่น แม้เรามีกลิ่นตัวมาก เหม็นเปรี้ยว ไม่พึงประสงค์ ตราบใดเดินเหยียบย่างในผู้คนหรือเข้าไปสนทนากับมนุษย์อื่น เราจะแลเห็นว่าการตอบรับที่เค้ามีต่อเรานั้นไม่

ค่อยจะดีนัก แม้จะไม่แสดงออกชัดเจนแต่ก็ดูเห็นได้ว่ากลุ่มชนพวกนั้นพยายาม เบี่ยงบ่าย ที่จะเข้าหาหรือพูดกับเราหรือ หากสนทนาพบปะ ก็ใช้เวลาน้อยและรีบจากไป นั่น

คือเค้าได้ดูเราอย่างแล้วว่าไม่น่าพูดด้วยเท่าไหร่มาก

นั่นเนื่องจากว่ากลิ่นนั้นเว้นเสียแต่จะเป็นตัวสร้างการรับรู้แล้ว ยังมีผลต่อจิตใจอีกด้วย โดยทั่วไปในเข้าสังคมคน กลิ่นถูกใช้คิดทบทวนบุคคล ว่าเป็นคนบุคคลิกอย่างไร หาก

มีกลิ่นในลักษณะรุนแรง หมักหมม หรือกลิ่นเปรี้ยว หรือกลิ่นอับจะถูกมองว่าเป็นคนที่ไม่สะอาด ไม่ใช่คนที่ดูแล ตนเองและขาดความเอาใจใส่ และคงจะถูกพิจารณาใน

เรื่องอื่นๆตามมาด้วย ตรงข้ามหากมีกลิ่นหอมหวนแล้วละก็ นั่นหมายว่าความใสสะอาด ความเอาใจใส่ ในคนๆนี้นั้นเยี่ยมเป็นต้น

ดังนั้นน้ำหอมจึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่หรือสังคมใหญ่ๆ ให้ความสำคัญในการพิจารณาบุคลิกภาพ ลักษณะนิสัย และอื่นๆ ซึ่งน้ำหอมนั้นนอกจากจะใช้เพื่อให้กลิ่นหอมแล้ว ยัง

ใช้ในการบ่งบอกอารมณ์ นิสัย และความเอาใจใส่ได้อีกด้วย เพราะน้ำหอมนั้นมีผลต่ออารมณ์ของผู้ใช้และผู้ที่ได้กลิ่น นอกจากนี้น้ำหอมยังอาจจะก่อให้เกิดความมั่นใจ ดึง

ดูดผู้อื่นให้เข้าใกล้ หรือสนิทกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้นก็ได้ ในทางตรงกันข้ามก็สามารถทำให้ผู้อื่นปวดศีรษะ เดินอยู่ห่างๆ หรือไม่อยากใกล้เลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

แต่เราจะรู้ได้ประการใดว่า ควรจะใช้น้ำหอมแบบใด ในสภาวะแบบไหน? โดยทั่วไปไม่มีกฎเกณตายตัวที่จะใช้น้ำหอมในสภาพการณ์หนึ่งๆ แต่เพื่อให้น้ำหอมที่เราจะใช้นั้น

อาจจะเพิ่มให้คุณประโยชน์ให้กับเราได้มากที่สุด เราจึงต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบตัวอย่างละเอียดอ่อนอย่างพิถีพิถันโดยแยก พินิจพิเคราะห์ดังนี้

เมื่อเราจะไปที่ไหน
พื้นที่ที่เราจะต้องไปนั้นมีผลกระทบอย่างใดต่อกลิ่นน้ำหอม? หรือว่าน้ำหอมจะเปลี่ยนไปในสถานที่ผิดแผกแตกต่างกัน? ก่อนอื่นต้องบอกกล่าวก่อนว่า ถ้าหากเราจะใช้ น้ำ

หอมนั้นเราอาจจะใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา แต่จะใช้กลิ่นประเภทไหนให้มีเสน่ห์หรือมีประสิทธิภาพมากที่สุดนั้นเราพิจารณาจากหลายปัจจัย ในกรณี สถานที่ ทำไมเราต้อง

พิจารณาสถานที่ที่เราจะไปด้วย? เราจะใส่น้ำหอมแบบไหนไปไหนก็ได้นี่เพราะไม่มีกฏเกณฑ์? ที่ต้องพิจารณานั่นก็เพราะว่า แต่ละสถานที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละแหล่ง

ซึ่งกลิ่นน้ำหอมที่หอมในสถานที่หนึ่งคงแย่มากในอีกสถานที่หนึ่งก็ได้

ตัวอย่างเช่น หากว่าเราจะต้องไปงานสมรสในโรงแรมหรู เราก็พิจารณาได้ว่าสถานที่คือ โรงแรมหรู สภาวการณ์คือพิธีมงคลสมรส ถ้าหากเราไปเป็นแขกเหรื่อ เราก็พึงจะ

ใช้กลิ่นที่ให้จิตใจแจ่มใส ยินดี นุ่มนวล หย่อนอารมณ์ ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหอมที่นำมาจากกลิ่นดอกไม้เป็นแม่แบบ เช่น กุหลาบ มะลิ ซ่อนกลิ่น

ในงานแต่งงาน

หากเป็นน้ำหอมบุรุษหนุ่มก็เหมาะเป็นกลิ่นที่อุ่นสบายๆ สดใส และกระปรี้กระเปร่าหน่อยๆ เพราะจะทำให้เราดูสุภาพอ่อนโยน และร่มเย็น หลีกเลี่ยงน้ำหอมที่กลิ่นหนัก

หน่วง(พวกกลิ่นใบยาสูบ,น้ำหอมกลางคืน) กลิ่นแนว sport และกลิ่นแนวขนมหวาน กลิ่นน้ำหอมที่หนักหน่วงจะสลายบรรยากาศรอบตัวจากความสุขจะ เปลี่ยนไปเป็นความ

เซ็ง กลิ่นแนวสปอร์ตจะทำเอาเราดูสุขจนเกินควร ขาดความเยือกเย็น ไม่มีมารยาทและความนิ่มนวลละเอียดละออ เป็นเหตุให้ไม่มีเสน่ห์เท่าที่ควร ส่วนกลิ่นแบบขนมนั้น

จะทำเอาดูเด็กและขาดเสน่ห์ของผู้หญิงไป (เว้นแต่ว่าเราอายุน้อย จึงสามารถใช้กลิ่นของขนมหวานๆได้)

การสังเกตสถานที่นั้นอาจจะต้องใคร่ครวญสิ่งแวดล้อมรอบตัวด้วย และควรทราบรายละเอียดปลีกย่อยของที่นั้นๆให้ดี เพราะที่จะสามารถวิเคราะห์ใช้งานกับน้ำหอม ได้

อย่างมีประสิทธิภาพ

โอกาสอันใกล้
น้ำหอมมักจะจะเริ่มใช้กลิ่นค่อยๆในตอนกลางวัน และใช้กลิ่นเข้มข้นในตอนกลางคืน ที่เป็นแบบนั้นส่วนใหญ่เพราะในช่วงเช้าถึงบ่ายนั้น สภาพอากาศในบ้านเราจะร้อนชื้น

แม้ได้กลิ่นหอมแรงๆจะทำเอาตาลายและพาลเป็นลมเอาง่ายๆ อีกอย่างในตอนเที่ยงเราจะต้องพบปะผู้คนแบบเป็นทางการ

ตอนเย็น
การใช้น้ำหอมกลิ่นรุนแรง ส่งผลลัพธ์ให้ผู้มาติดต่อสื่อสารหรือพบปะเห็นว่าเป็นการลุกล้ำจู่โจมเขตประจำตัว ไม่รู้จักกาละเทศะและไม่มีมารยาท เพราะถือเป็นการ ก่อกวน

อย่างหนึ่ง แต่ในเวลากลางคืนนั้นหาใช่เช่นนั้นไม่ เนื่องจากดินฟ้าอากาศที่เย็นและความรู้สึกผ่อนคลายเป็นสนิทสนมมากกว่า ทำเอานิยมเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นไอเข้มข้น

ด้วยกลิ่นที่เข้มข้นโดยมากจะน่ามองและมีเสน่ห์แบบเซ็กซี่ของผู้ใหญ่น่าเคารพ เนื่องจากรัตติกาลนั้นเป็นที่ทราบกันว่ามีความโรแมนติค ความเป็นส่วนตัวสูง ผู้ที่ท่องเที่ยว

กลางคืนเองก็ถูกใจที่จะเป็นที่นิยมชื่นชอบของเพศตรงข้าม น้ำหอมที่ใช้เพื่อกลางคืนจึงเต็มไปด้วยกลิ่นที่จะติดใจจากเพศตรงข้าม ไม่ก็บางขณะอาจใช้เป็นกลิ่นโก้หรู

เกี่ยวกับงานสังคมที่เป็นทางการ เช่น งานดินเนอร์ เป็นต้น

ลมฟ้าอากาศ
ของอากาศนั้น มีส่วนสำคัญที่เราจะคัดเลือกใช้น้ำหอม เมื่อลมฟ้าอากาศที่ร้อนอบอ้าวควรใช้กลิ่นที่หอมเย็นกลิ่นสดชื่น อย่างกลิ่นเปรี้ยวๆ หรือกลิ่นท้องทะเลอย่าง Davidoff

Cool water,Bvlgari aqva,หรือกลิ่นแนว Sport อย่าง Issey Miyake L’eau Pour homme sport,addidas,Puma,CK summer เป็นต้น กลิ่นกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่ม

อารมณ์ที่สดชื่นหย่อนใจในโอกาสสภาพอากาศร้อนๆได้ดี

ในประเภทของลมฟ้าอากาศเย็นๆนั้น กลิ่นของขนม กลิ่นดอกไม้หวานๆ กลิ่นวานิลลา และกลิ่นที่เข้มข้นจะอาจจะใช้ได้ดี เนื่องจากว่าอากาศเย็นจะทำให้เรารู้ตัวกลิ่นไอได้

ดีและไม่ฟุ้งกระจายมาก คนเราหากได้กลิ่นในที่ลมฟ้าอากาศเย็นจะทำให้รู้ว่ากลิ่นนั้นลดความรุนแรงลง พวกกลิ่นอบอุ่นจึงอาจจะใช้ได้ดีด้วย เช่นเดียวกัน เช่น Burberry

Brit,Jessica Mcclintock,CK Secret obsession,Paris Hilton can can ฯลฯ

วันฝนตกกับการลักษณะการใช้งานน้ำหอม

ลมฟ้าอากาศหลังฝนลงเม็ด เป็นสภาพภูมิอากาศที่ยุ่งยากต่อการใช้น้ำหอมมาก เพราะหลังฝนตกนั้น กลิ่นของหน้าดิน กลิ่นน้ำฝน กลิ่นตึกจะกระจายขึ้นมา แถมด้วยกลิ่นอัน

ไม่ปรารถนาอีกมากมาย การใช้น้ำหอมในช่วงนี้จึงต้องละเอียดลออให้มาก น้ำหอมที่เหมาะสมกับสภาพอากาศเวลาฝนตกควรจะเป็นน้ำหอม กลิ่นเบาๆ หอมลักษณะดอกไม้

หรือกลิ่นหอมแรง พวกกลิ่นสมุนไพร กลิ่นแบบธรรมชาติ กลิ่นพวกหญ้าสีเขียว เป็นต้น

เรื่องต่างดังนี้เป็นเพียงขั้นพื้นฐานขั้นแรกเกี่ยวกับคนที่ใช้น้ำหอมในครั้งต่างๆ และใช้ให้ลงตัว เสมอเหมือนเลือกสรรซื้อเสื้อผ้าไปงานต่างๆ น้ำหอมก็เช่น เดียวกันต้องคัด

เลือกให้ลงตัว เนื่องจากน้ำหอมเองก็คือเสื้อผ้าที่เบิ่งไม่พบ

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2557

กฎเกณฑ์และวิธีการใช้งานน้ำหอมอย่างไรให้นำไปใช้ได้อย่างมีศักยภาพ

แนวทางใช้งานกับนํ้าหอมนั้นเราน่าจะฉีดพ่นนํ้าหอมในส่วนต่างๆ ของตัวเราดังนี้
- เพื่อให้นํ้าหอมได้ทำการส่งในการส่งกลิ่นหอมให้ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เราต้องพ่นนํ้าหอมตรงชีพจร, ข้อมือ, กระดูกไหปลาร้า, สะดือ, หรือแม้แต่แนวข้อพับขาของเรานั้นเอง
- เราไม่ควรจะฉีดพ่นนํ้าหอมตรงแนวส่วนหลังใบหู ก็เพราะว่าตรงจุดแถวนี้กลิ่นไอนํ้าหอมและแอลกอฮอล์จะระเหยไปอย่างฉับไวในโดยไม่นาน
- หลายคนก็จะฉีดพ่นนํ้าหอมภายหลังจากอาบนํ้าเสร็จสิ้นใหม่ๆ ในเวลาที่ผิวคงจะมีความชื้นอยู่ ซึ่งวิธีการนี้ก็จะทำเอา กลิ่นนํ้าหอมนั้นตรึงนานมากยิ่งขึ้น
- ซึ่งบางคนก็ชี้แนะให้ใส่นํ้าหอมลงไปเจือปนในนํ้าสุดท้ายที่เราใช้ซักชุดชั้นใน เพื่อจะให้กลิ่นไอนํ้าหอมนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายเราเลยแท้จริง

วิธีรักษาน้ำหอมของคุณ
วิธีการของการปกป้องการเก็บรักษานํ้าหอมนั้นให้ถูก เราควรจะรู้ไว้ว่า นํ้าหอมจะเกิดผลและเกิดปฏิกิริยาโดยตรงกับอากาศ, ความร้อน, แสงแดด โดยเหตุนั้น เราสมควรที่จะเก็บขวดนํ้าหอม ไว้ในบริเวณที่มีความเย็น มืด ซึ่งการเก็บนํ้าหอมตามวิธีนี้นั้น คุณอาจจะรักษานํ้าหอมของท่าน ได้ยาวนานถึง 20 ปี เลยทีเดียว โดยที่กลิ่นของนํ้าหอมก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าท่านเก็บนํ้าหอมไม่ถูกวิธีการ นํ้าหอมของท่านก็จะกลิ่นแปลกไป และก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นกรดไปในที่สุด พอสัมผัสเสื้อผ้าจะตกเป็นรอยคราบ

ความรอบรู้เรื่องราวของกลิ่นอายหอมในน้ำหอม

คำแนะนำประเด็นกลิ่นหอม
ถ้าดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ น้ำหอมจะเสมอเหมือนหน้าต่างของจิตใจในช่วงเวลานั้น การที่พ่นน้ำหอม จะทำเอาคิดว่างามขึ้น มีความมั่นใจมากขึ้น เรามารู้จักมักคุ้นกับการคัดเลือกน้ำหอมให้เข้ากับบุคลิกลักษณะของเรากันดีกว่า

กลิ่นของน้ำหอม แบ่งส่วนเป็น 3 ลักษณะ
1. กลิ่นไอหอมนุ่มนวล จากดอกไม้ อย่างเช่น ดอกกุหลาบ ลิลลี่ (Lily), ป๊อปปี๊ (Poppy), มะลิ (Jasmin)
2. กลิ่นไอหอมมีชีวิตชีวา จากพืชชนิดมะนาว (Lemon) และส้ม (Orange)
3. หอมอุ่นสบาย จากกลิ่นอายไม้หอม ตัวอย่างเช่น ไม้จันทน์ไม้ซีดาร์ (Cedarwood)

คัดเลือกน้ำหอม จะส่อบุคลิกลักษณะของเรา กับคนเข้าใกล้

น้ำหอมสำหรับสาวหวาน
น้ำหอมกลิ่นไอหอมละมุน เช่น Tresor จากลังโคม กลิ่นหอมมีชีวิตชีวา เพื่อวัยสดใสอย่างAnais Anais จากกาชาแรล หรือไม่กลิ่นอายหอมกรุ่นละมุนละไม อย่าง Pleasures จากเอสเต้ ลอเดอร์

น้ำหอมเพื่อสาวน่ามอง

Poison, Dune ของคริสเตียน ดิออร์ Rush จากกุชชี่ Opium ของอีฟส์ แซงต์ โลร็องต์ หรือJean Paul Gaultier จาก ฌอง ปอล โกล์ติเยร์

น้ำหอมสำหรับสาวเบิกบาน
กลิ่นหอมหวนแจ่มใสจากมะนาวและมินต์ อย่างEau de Guerlain ของเกอร์แลง กลิ่นอายหอมแจ่มใสด้วยพวกพืชพันธุ์ ของAromatics Elixer จากคลีนิก

น้ำหอมสำหรับสาวนักกีฬา
พึงจะใช้กลิ่นอายน้ำหอมที่ให้อารมณ์มีชีวิตชีวา เบาสบาย เช่น Escada Sport, Tommy Girl, Polo Sport for women